วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2555
วันพุธที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2555
Liver Cancer / มะเร็งตับ
วันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2555
Ttalassemia - ธาลัสซีเมีย
ธาลัสซีเมีย คืออะไร ธาลัสซีเมีย คือ ความผิดปกติของเลือดชนิดหนึ่ง ถ่ายทอดทางพันธุกรรม อาจมีโลหิตจางซึ่งเรียกว่า โลหิตจางธาลัสซีเมีย มีชนิดย่อยหลายชนิดเช่น ชนิดเบต้า (beta-thalassemia) ชนิดแอลฟ่า ชนิดอี (Hemoglobin E) ชนิดเอช เป็นต้น แต่ละชนิดมีความรุนแรงต่าง ๆ กัน ผู้ป่วยโรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย ที่รุนแรงมาก เช่น ชนิดเบต้า และอี-เบต้า จะสร้างเม็ดเลือดแดงผิดปกติที่สลายตัวง่าย ทำให้เลือดจาง ดูซีดเหนื่อย ง่ายเจริญเติบโตช้า ผู้ป่วยโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียที่รุนแรงน้อย เช่นชนิด เอ็ช อาจมีเลือดจางเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีอาการ แต่นาน ๆ ครั้ง จะมีอาการ ซีดลงอย่างรวดเเร็วเป็นพัก ๆ และหายเองได้ เป็นต้น โรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย มิใช่โรคมะเร็งแต่เป็นโรคเรื้อรังประจำ ตัวเด็ก ต้องให้การรักษาไปตลอดชีวิต โรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย รักษาอย่างไร ? เด็กที่เป็นโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียชนิดรุนแรง สามารถรักษาให้ดีได้โดย การให้เลือดให้มากพอ และให้ยาขับธาตุเหล็ก การให้เลือดจากผู้บริจาค โลหิตแก่เด็กที่ป่วยด้วยโรคนี้เป็นประจำทุก 3-4 สัปดาห์จะป้องกันไม่ให้ เด็กมีโลหิตจาง และหยุดสร้างเม็ดเลือดที่ผิดปกติได้ เด็กจะแข็งแรงเจริญ เติบโต เป็นปกติได้แต่ต้องมาโรงพยาบาลสม่ำเสมอตลอดชีวิตเพื่อให้ การรับเลือดแบบนี้ การให้เลือดเป็นประจำจะทำให้ธาตุเหล็กสะสมมากเกินไป เด็กที่รักษา แบบนี้จะต้องได้รับยาขับธาตุเหล็กออกจากร่างกายเป็นประจำ อาจทำ โดยการฉีด"ยาขับธาตุเหล็ก"เองตลอดคืนที่บ้าน สัปดาห์ละ 3-5 วัน หาก ควบคุมธาตุเหล็กมิให้สะสมได้ เด็กจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่และมีชีวิตยืนยาว ได้ใกล้เคียงกับคนปกติ สำหรับเด็กที่เป็นโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียชนิดไม่รุนแรง ไม่จำเป็นต้อง ให้เลือดเป็นประจำ จะได้ไม่มีปัญหาธาตุเหล็กเกิน จะให้เลือดก็ต่อเมื่อซีด กว่าเดิมเป็นครั้งคราว หรือเมื่อมีอาการเหนื่อย บางทีการผ่าตัดม้ามออก อาจทำให้อาการดีขึ้นได้ โรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย รักษาหายขาดได้หรือไม่ ? เด็กที่เป็นโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียชนิดรุนแรง อาจรักษาหายขาดได้โดย การปลูกถ่ายไขกระดูก หรือการปลูกถ่ายสเตมเซลล์ แต่การรักษาด้วยเทค โนโลยีขั้นสูงนี้ ไม่ใช่คำตอบสุดท้ายสำหรับทุกคน เพราะว่าการปลูกถ่ายไขกระดูกจะทำสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อ มีผู้บริจาคไขกระดูก หรือสเตมเซลล์ที่มีหมู่เลือด "เอชแอลเอ" ตรงกับผู้ป่วย หากเด็กที่เป็น ธาลัสซีเมีย มีพี่น้องคนใดคนหนึ่ง ที่มี "เอชแอลเอ" ตรงกับเขาก็อาจรักษา ได้ด้วยวิธีการปลูกไขกระดูก และอาจทำให้หายขาดจากโรคโลหิตจางธา ลัสซีเมียไม่ต้องให้เลือดอีกเลย ไม่ต้องฉีดยาขับธาตุเหล็กไปตลอดชีวิต แต่หากไม่มีผู้บริจาคที่เหมาะสม การปลูกถ่ายไขกระดูกย่อมไม่สำเร็จ เสี่ยง ต่อผลข้างเคียงมาก จึงไม่แนะนำให้ทำ เราจะป้องกันไม่ให้ลูกหลานเป็นโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียได้อย่างไร ? ธาลัสซีเมียเป็นโรคพันธุกรรม ผู้ป่วยโรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย ย่อมเกิด จากพ่อและแม่ที่มีภาวะธาลัสซีเมียแฝง ภาวะธาลัสซีเมียนั้นมิใช่โรค ผู้ ที่มีธาลัสซีเมียแฝงเป็นคนปกติและไม่ทำให้โลหิตจาง ชาวไทยและคน เอเซียตะวันออกเฉียงใต้จำนวนมาก ล้วนมีภาวะธาลัสซีเมียแฝงแบบใด แบบหนึ่งอยู่ในยีนของเรา เชื่อกันว่ายีนธาลัสซีเมีย มีส่วนทำให้บรรพบุรุษ เราอยู่รอดจากโรคภัยไข้เจ็บ เช่น โรคมาลาเรีย ที่แพร่ระบาดในภูมิภาคนี้ ในสมัยที่การแพทย์ยังไม่เจริญมาได้จนถึงทุกวันนี้ หากท่านมีธาลัสซีเมียแฝง อย่าได้กังวลใจ ก่อนมีบุตรให้พาคู่ของท่านไป ตรวจว่ามีธาลัสซีเมียแฝงหรือไม่ ถ้ามีธาลัสซีเมียแฝงทั้งคู่ก็สามารถมีบุตร ได้ แต่ต้องปรึกษาสูติแพทย์ที่รู้เรื่องธาลัสซีเมียเพื่อให้คำแนะนำเกี่ยวกับ การตรวจก่อนคลอด เพื่อให้แน่ใจว่าบุตรที่คลอดออกมา ปลอดจากโรคโล หิตจางธาลัสซีเมีย หากคู่ใดที่มีธาลัสซีเมียแฝงคนเดียว บุตรจะไม่มีโอกาส เป็นโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียชนิดรุนแรงได้เลย สามารถมีบุตรได้ตามปกติ สามารถสอบถามและเรียนรู้เกี่ยวกับธาลัสซีเมียเพิ่มเติมได้จาก มูลนิธิโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียแห่งประเทศไทย http://www.thalassemia.or.th/ หรือ ติดต่อที่ ชมรมธาลัสซีเมีย โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โทร. 02-256-4949 ในเวลาราชการ ขอบคุณข้อมูลจาก รศ.นพ อิศรางค์ นุชประยุร |
วันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2555
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)