วันพฤหัสบดีที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ไก่ทอดกรอบ


ปีกไก่ทอด

ปีกไก่ล้างสะอาด สับปลายทิ้ง

เครื่องปรุง เกลือ แป้งโกกิ พริกไทยป่น ใบมะกรูด
เครื่องแกงพริกแดงโขลกละเอียด

เติมน้ำลงเล็กน้อย คลุกเคล้าส่วนผสมให้เข้ากัน

หมักทิ้งไว้ 15 นาที

ตั้งกะทะใส่น้ำมันพอท่วมไก่

น้ำมันร้อนนำปีกไก่ที่หมักไว้ลงทอด พอไก่เริ่มเหลือง
โรยใบมะกรูดลงไป

ทอดจนไก่เหลืองกรอบ นำขึ้นพักบนตะแกรง

เสร็จแล้วคะ ปีกไก่ทอดกรอบ จัดใส่จานเสิร์ฟร้อน ๆ พร้อมน้ำจิ้ม

เจอกันใหม่สัปดาห์คะ

- - - - - - - - ปิดครัว - - - - - - - - 

วันศุกร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Carpaccio - คาร์ปาชโช่เนื้อกับหน่อไม้ฝรั่ง



Carpaccio Arrotolato



Carne di manzo - insalata rucola - formaggio parmigiano
Olio extra vergine di oliva - sale - asparagi

 เนื้อสันออสเตรเลีย  หน่อไม้ฝรั่ง น้ำมันมะกอก เกลือ
ผัก Rucola ชีส Parmigiano 

Asparagi  / หน่อไม้ฝรั่ง

ตัดท่อนล่างทิ้ง 2 นิ้ว ขูดเปลือกนอกออก

เริ่มทำหน่อไม้ฝรั่งก่อนค่ะ น้ำใส่กะทะตั้งไฟ พอเดือดใส่เกลือ
เล็กหน่อย ตามด้วยหน่อไม้ฝรั่งลงต้ม ประมาณ 5 นาที
เทน้ำออกใส่เนยลงผัดให้หอม

เนยละลาย ปิดไฟตั้งพักไว้

ทำคาร์ปาชโช่ต่อคะ เนื้อวัวดิบสไลด์แช่เย็น

ผัก Rucola


Formaggio Parmigiano /  ชีส พาร์มิจาโน่

ชีส พาร์มิจาโน่  ขูดเป็นชิ้นบาง ๆ หักท่อน ๆ

วางแผ่นเนื้อบนเขียงสะอาด วางผักลงบนเนื้อ โรยเกลือนิด ๆ 

เหยาะน้ำมันมะกอกลงไป


โรยชีส

ห่อม้วนขึ้นไปด้านบนจนสุด

ตัดเป็นชิ้นพอคำแล้วจัดใส่จาน

Carpaccio tricolore di manzo con rucola e parmigiano

เรียบร้อยแล้วคะ คาร์ปาชโช่เนื้อ กับหน่อไม้ฝรั่งผัดเนย
จัดคู่กับมะนาวเหลือง

 
Carpaccio di manzo con asparagi

จานนี้อีกแบบไม่ใส่ผัก วิธีห่อตลบเนื้อด้านซ้าย ขวาเข้าหากัน
 แล้วม้วนขึ้นไปจนสุด ตัดออกมาจะดูเนื้อแน่นขึ้น ก่อนทานบีบ
มะนาวเหลืองใส่กระชับรสชาติ


เสร็จแล้วคะ อาหารจานดิบแบบอิตาเลียน
ถ้าเทียบกับอาหารจานดิบบ้านเรา คงเทียบได้กับ ลาบเลือด
ลาบก้อยดิบ กุ้งเต้น กุ้งแช่น้ำปลา หรือหอยนางรมสด (แง่วว)




(  โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจรับประทาน )




- - - - - - - - ปิดครัว - - - - - - - -

วันอาทิตย์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เสน่ห์ด้วยน้ำหอม


รู้จักน้ำหอม

น้ำหอมกำเนิดมาหลายพันปี ตั้งแต่สมัยเมโสโปเตเมีย
กำยานเป็นเครื่องหอมกลิ่นแรกที่มนุษย์รู้จัก ชาวตะวันออก
เชื่อว่าน้ำหอมช่วยทำให้อายุยืนยาว และช่วยเสริมความงาม


ประเภทของน้ำหอม

น้ำหอมมีส่วนผสมหลัก ได้แก่น้ำหอมที่ถูกทำให้เจือจางลง
ด้วยแอลกอฮอล์ ในระดับความเข้มข้นของความหอมที่ต่างกัน
น้ำหอมจึงถูกแบ่งเป็น 4 ประเภทด้วยกันดังนี้


โอเดอ โคโลญ ( Eau de Cologne ) น้ำหอมที่มีส่วนผสมของ
น้ำมันหอมในปริมาณ 2 - 3 % จะอยู่ได้นานประมาณ 1 ชั่วโมง


โอเดอ ทอยเล็ตต์ ( Eau de Toilette ) น้ำหอมที่มีส่วนผสมของ
น้ำมันหอมในประมาณ 8-14 % อยู่ได้นานประมาณ 2 - 4 ชั่วโมง


โอเดอ เพอร์ฟูม ( Eau de Parfume ) น้ำหอมที่มีส่วนผสมของ
น้ำมันหอมในปริมาณ 15 - 18 % อยู่ได้นานประมาณ 4 - 6 ชั่วโมง


เพอร์ฟูม (Parfume ) น้ำหอมที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอม
ในปริมาณ 18 - 24 % อยู่ได้นานประมาณ 6 - 12 ชั่วโมง


ระดับของความหอม

Top Note  ( กลิ่นแรก ) เมื่อใส่น้ำหอมในช่วงแรก
คุณจะได้กลิ่นในระดับที่นักปรุงน้ำหอมปรุง ซึ่งโดยส่วนใหญ่
เป็นแนวสดชื่นแบบส้ม มะนาว หรือกลิ่นหอมสดชื่นของดอกไม้
ที่สร้างความประทับใจตั้งแต่แรกเริ่ม กลิ่นแรกนี้จะอยู่ได้ประมาณ
20 นาที จากนั้นจะพัฒนาเข้าสู่ระยะต่อไป


Middle Note ( กลิ่นกลาง ) คือน้ำหอมที่เกิดการกระจายกลิ่น
อย่างเต็มที่ จะมีกลิ่นคงอยู่นานที่สุด เป็นบุคลิกที่แท้จริงของน้ำหอม
ซึ่งเป็นหัวใจของน้ำหอม ส่วนผสมจะคัดสรรเป็นพิเศษเพื่อโดดเด่น
แตกต่างกัน เป็นกลิ่นที่บงบอกบุคลิกของน้ำหอมอย่างชัดเจน โดย
ส่วนใหญ่จะเป็นกลิ่นไม้หอม วานิลลา ดอกไม้หายาก และมีราคา
ค่อนข้างสูง จะคงความหอมติดผิวกายได้นาน  2 - 4 ชั่วโมง


Base Note ( กลิ่นพื้นฐาน ) เป็นกลิ่นที่ติดผิวกายได้นานที่สุด
ผสมผสานเข้ากับกลิ่นกายเป็นบุคลิกของผู้ใช้ โดยปกติกลิ่นในระดับ
พื้นฐานนี้จะแสดงกลิ่นในช่วง 4 - 6 ชั่วโมงต่อมา และค่อย ๆ จางหาย
ไปในที่สุด โดยทั่วไปมักจะเป็นกลิ่นแนวมัสก์ หรืออำพัน


Nook Musk Oil


เคล็ดลับการใช้น้ำหอม

แต้มหรือฉีดน้ำหอมในบริเวณที่เป็นจุดชีพจร โดยมากจะเป็น
บริเวณข้อมือ ลำคอ บริเวณข้อพับแขนหรือขาพับ

การฉีดสเปรย์น้ำหอมในอากาศแล้วใช้วิธีเดินผ่านจะช่วยให้
กลิ่นหอมกระจายติดตัวเราได้ทั่ว

พยายามอย่าใช้โลชั่นที่มีกลิ่นหอม คนละกลิ่น กับน้ำหอมที่ใช้
เพื่อไม่ให้กลิ่นปนกัน

ใช้น้ำหอมมากหน่อยถ้าคุณเป็นคนผิวแห้ง เนื่องจากคนผิวมัน
มีน้ำมันช่วยคงกลิ่นให้ติดอยู่ได้ยาวนาน

ในอากาศเย็นสามารถเลือกน้ำหอมที่มีกลิ่นเข้มกว่าปกติ เนื่อง
จากความเย็นหรืออุณหภูมิต่ำ จะลดกลิ่นหอม ของน้ำหอม
ให้ลดน้อยลงกว่าที่เป็น

ในอากาศร้อนให้ฉีดน้ำหอมในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะกลิ่น
จะแรงกว่าในที่อากาศเย็น และหากต้องอยู่กลางแดดจ้า ควรแตะ
น้ำหอมตรงจุดที่ไม่ถูกแดด เพราะแสงแดดอาจทำปฎิกิริยาให้
กลิ่นน้ำหอมเปลี่ยนแปลงได้

การฉีดน้ำหอมทันทีหลังจากที่อาบน้ำเสร็จใหม่ ๆ จะช่วยทำให้
กลิ่นหอมติดทนนาน และผสมเข้ากับกลิ่นกายพัฒนาเป็นกลิ่น
ตามบุคลิกของเราได้ดี

การฉีดน้ำหอมควรทำห่างจากตัวอย่างน้อย 30 เซนติเมตร
เพื่อให้กลิ่นหอมกระจาย ไม่ทิ้งจุดด่าง หรือรอยเปียกของ
น้ำมันเอาไว้บนเสื้อผ้า

ควรใช้น้ำหอมในปริมาณที่พอดีไม่ให้กลิ่นรบกวนผู้อื่นที่อยู่รอบข้าง
การเลือกใช้น้ำหอมและวิธีใช้ที่ถูกต้อง จะช่วยสร้างเสน่ห์ให้กับผู้หญิง
 นอกจากนั้นกลิ่นหอมที่แตกต่างยังสร้างบุคลิกเฉพาะตัวที่เป็นเสน่ห์ไม่
เหมือนใครอีกด้วยคะ

ขอบคุณที่มาทุกแหล่งของข้อมูล

...ดอกฝิ่น//.